ทำความรู้จักนักสืบหน้าก้น หนังสือสืบสวนสำหรับเด็กอันดับหนึ่ง

  นักสืบผู้แสนฉลาด มีหน้าเป็นก้น แปลกสุด ๆ ไปเลยแต่กลับเป็นตัวละครที่เด็ก ๆ รักมากและอยากอ่านเรื่องราวสนุกนี้ไปเรื่อย ๆ

    แม้ชื่อเรื่องจะฟังดูแปลกและชวนหัวเราะ  แต่ “นักสืบหน้าก้น” หรือ "Oshiri Tantei" จากญี่ปุ่นเรื่องนี้กลับได้รับความนิยมในหมู่เด็ก ๆ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศอย่างถล่มทลาย ทั้งยังเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ผู้ปกครองหลายคนไว้วางใจให้ลูกอ่าน  

    นักสืบหน้าก้นเป็นผลงานสร้างสรรค์โดย "Troll" นักวาดชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันได้ตีพิมพ์ทั้งรูปแบบหนังสือนิทาน วรรณกรรมเล่มแรก (Nanmeebooks Bridge) และฉบับการ์ตูน มากมายหลายเล่ม อีกทั้งยังจัดจำหน่ายในญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 9 ล้านเล่ม และได้รับการดัดแปลงเป็นแอนิเมชันโดย "Toei Animation" ออกอากาศในญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ. 2018

    จุดเด่นของตัวละครขวัญใจน้อง ๆ หนู ๆ คงจะหนีไม่พ้นใบหน้ารูปก้นอันเป็นเอกลักษณ์ และความสามารถในการ "ผายลม" ซึ่งเป็นท่าไม้ตายในการปราบเหล่าร้ายได้อยู่หมัด ในขณะเดียวกันเขาคือ “นักสืบอัจฉริยะ” ผู้มี IQ สูงถึง 1,104 ที่ใช้สมองเก่งยิ่งยวด เรียกได้ว่านักสืบหน้าก้นเปรียบเสมือน “ยอดนักสืบ” สำหรับเด็ก ๆ ในยุคนี้เลย ด้วยทักษะการไขคดีที่ชวนน้อง ๆ หนู ๆ นักอ่านได้ฝึกทักษะการสืบสวน การสังเกต และฝึกการอ่านไปกับเรื่องสนุกแถมยังมีภาพประกอบสีสันสวยงามอีกด้วย

    ด้วยภาพลักษณ์ยียวน ทำให้เกิดคำถามจากคุณพ่อคุณแม่ถึงความเหมาะสมของเนื้อหา แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตัวละครนักสืบสุดแปลกในหนังสือเล่มนี้ “ควรค่า” แก่การเปิดใจ

1. เนื้อเรื่องสนุก ตลก และปลอดภัย

    แม้ตัวละครจะมี “ใบหน้ารูปก้น” และสอดแทรกมุกผายลมอยู่บ้าง แต่เรื่องทั้งหมดถูกเล่าในเชิง “เรื่องขำขันสำหรับเด็ก” ไม่มีการนำเสนอเรื่องราวหรือตัวละครที่เป็นไปในเชิงลบหรือไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก นอกจากนี้เนื้อหาในเล่มยังปลอดภัยสำหรับน้อง ๆ หนู ๆ นักอ่าน คุณพ่อคุณแม่จึงไว้วางใจให้เด็ก ๆ อ่านอย่างไรกังวล

2. ชวนสังเกตและรู้จักใช้เหตุผล

    “นักสืบหน้าก้น” เป็นหนังสือแนวไขปริศนา เด็ก ๆ จะได้ร่วมคลี่คลายคดีไปพร้อมกับตัวละครหลักผ่านคำใบ้ ภาพซ่อนหา และเหตุการณ์ที่ต้องใช้การวิเคราะห์ ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงตรรกะ (Logical Thinking) เด็ก ๆ จึงสนุกกับการอ่านและพัฒนาทักษะการคิดไปพร้อม ๆ กัน

3. เสริมจินตนาการและการอ่านอย่างเพลิดเพลิน

    ภาพประกอบสีสดใส ตัวละครหลากหลาย และมีคาแรกเตอร์ชัดเจน ซึ่งตัวละครส่วนใหญ่เป็นสัตว์หลากชนิด ทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ชนิดของสัตว์และจดจำลักษณะท่าทางของตัวละครได้ดี ด้วยความหลากหลายของตัวละครรวมเข้ากับเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน เด็ก ๆ จะเพลิดเพลินกับการอ่านจนลืมว่าตัวเองกำลังฝึกทักษะทางภาษาเพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาอยู่

4. ปลูกฝังความยุติธรรมและจิตสำนึกที่ดี

    ด้วยแก่นของเรื่องที่เกี่ยวกับ “การสืบสวน” ตัวละครหลักอย่างนักสืบหน้าก้นจึงมีหน้าที่ในการตีแผ่ความจริง โดยอาศัยหลักคุณธรรมและความซื่อสัตย์ ผสมกับอุปนิสัยส่วนตัวที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ใจเย็น สุภาพ มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง เป็นตัวอย่างและตัวช่วยทางอ้อมในการชี้นำให้เด็ก ๆ เป็นเด็กดีมีคุณธรรม นอกจากนี้ในแต่ละคดีเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้สิ่งที่ถูกต้อง การยอมรับผิด การให้อภัย ปลูกจิตสำนึกรับผิดชอบ และสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสม

5. สร้างช่วงเวลาแสนพิเศษร่วมกันในครอบครัว

    หนังสือชุดนักสืบหน้าก้นเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ได้มากกว่าแค่การอ่าน ในเล่มมีเกมแสนสนุกชวนให้น้อง ๆ หนู ๆ รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่มาสนุกไปด้วยกัน ทำให้หนังสือเล่มนี้เหมาะกับการเป็น “หนังสือที่ใช้อ่านร่วมกันในครอบครัว” คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยกันสืบสวนไปพร้อมกับลูก ชวนกันถาม-ตอบ วิเคราะห์หรือหัวเราะไปด้วยกัน เพิ่มเวลาแห่งความผูกพันอย่างมีคุณภาพ

    “นักสืบหน้าก้น” อาจฟังดูตลกเมื่อได้ยินครั้งแรก แต่ที่จริงแล้วภายในคือ สื่อส่งเสริมพัฒนาการชั้นเยี่ยมที่ผู้ปกครองและคุณครูสามารถนำไปต่อยอดการเรียนรู้รอบด้าน โดยเริ่มต้นจากเสียงหัวเราะ และความสนุก

    หวังว่าหนังสือชุด "นักสืบหน้าก้น"  ไม่ว่าจะเป็นนิทาน วรรณกรรมเล่มแรก และการ์ตูนความรู้จะช่วยสร้างความสุข ปลูกฝังการเรียนรู้ และเป็นที่ไว้วางใจของผู้ปกครองทุกคนนะคะ