อ่านก่อนดูหรือดูก่อนอ่าน กับวรรณกรรมแฟนตาซีสุดปัง “ตำนานกรีชา (Shadow and Bone)” และ “อีกาผยอง (Six of Crows)”

“เจ้ากับข้าจะเปลี่ยนโลกใบนี้” 

หากคุณเป็นคอวรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซี YA คงต้องไม่พลาดกับสุดยอดแห่งนวนิยายแฟนตาซีในจักรวาล “ตำนานกรีชา (Grishaverse)” ผลงานของลี บาร์ดูโก (Leigh Bardugo) นักเขียนสาวลูกครึ่งอเมริกัน-อิสราเอล ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกจนขายไปแล้วถึง 9 ล้านเล่ม แปลไปแล้ว 22 ภาษาใน 50 ประเทศ ซึ่งการันตีได้ถึงความนิยมในกลุ่มผู้อ่านวัยรุ่น  ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งซีรีส์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์ในโลกแฟนตาซียอดนิยมของ Netflix ที่อลังการด้วยงานสร้างคุณภาพสูง และพรั่งพร้อมด้วยทีมดารานักแสดงวัยรุ่นที่ล้วนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองจนหลายคนติดอกติดใจ  “ตำนานกรีชา” ได้ออนแอร์ให้ชมไปแล้ว 1 ซีซั่นและเตรียมรอชมซีซั่น 2 ในอีกไม่นานเกินรอ  ลี บาร์ดูโก ผู้สร้างสรรค์จักรวาลแห่งตำนานกรีชานี้คาดหวังให้มีถึง 5 ซีซั่นด้วยกัน เพราะในโลกตำนานกรีชาของเธอนั้นยังมีเรื่องราวที่อยากจะบอกเล่าอีกมากมาย

แม้ “ตำนานกรีชา” ในรูปแบบซีรีส์จะได้รับการดัดแปลงให้แตกต่างออกไปจากหนังสือ โดยนำเนื้อหาจากจักรวาล “ตำนานกรีชา” จาก 2 ชุดมาผสมกัน

คือ ชุด “แดนมรณะแห่งพยับเงา (Shadow and Bone)” ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม 

• “แดนมรณะแห่งพยับเงา (Shadow and Bone)”  • “อหังการเจ้าแห่งความมืด (Siege and Storm)” •  “รุ่งอรุณแห่งวิหคเพลิง (Ruin and Rising)”
กับ ชุด “อีกาผยอง (Six of Crows) ประกอบไปด้วยหนังสือ 2 เล่ม  
• “อีกาผยอง (Six of Crows)” • “อาณาจักรฉ้อฉล (Crooked Kingdom)”
(หนังสือฉบับแปลไทยจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์) เพื่อให้ซีรีส์ทันสมัย ดูสนุก ดำเนินเรื่องได้กระชับ ฉับไว เล่าเรื่องที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่าย จนทำให้เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์และหนังสือต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน  

ทว่าเพื่อความอินและอรรถรสในการรับชมก็อยากแนะนำให้ค่อย ๆ อ่านหนังสือทั้ง 5 เล่มนี้ให้จบก่อนที่จะดูซีรีส์หรือขณะรอชมซีซั่น 2 เพราะจะช่วยให้คุณได้ดื่มดํ่ากับรายละเอียดในโลกของกรีชามากขึ้น ได้รู้จักนิสัย ภูมิหลังของตัวละครที่จะค่อยๆ เผยออกมา แล้วคุณจะเข้าใจ หลงรัก ยิ้ม หัวเราะ มีนํ้าตา ต้องคาดเดา และลุ้นเอาใจช่วยกับการต่อสู้หรือความสัมพันธ์ของพวกเขาไปด้วยกัน เพราะแต่ละเล่มจะยิ่งสนุกเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนวางไม่ลง และในเล่มยังมีแผนที่ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจดินแดนและเมืองต่าง ๆ ในราฟกาและถิ่นของแก๊งอีกาทั้งหกคนได้มากขึ้น 

ความสนุกของตำนานกรีชาดำเนินเรื่องด้วยฉากหลังที่สวยงามของอาณาจักรรัสเซียโบราณ ซึ่งผูกปมด้วยเรื่องราวที่สะท้อนถึงสงคราม การเมือง พลังอำนาจ การแย่งชิง เสียดสีเรื่องการแบ่งแยกชนชั้น เส้นแบ่งศีลธรรมระหว่างความดีกับความชั่วร้ายที่ล้วนเกิดจากความละโมบของมนุษย์ ผสมผสานกับเวทมนตร์เล็กน้อย คลุกเคล้ากับความเปราะบางของกลุ่มวัยรุ่นที่ต่างมีภูมิหลังหรือปมปัญหาของตัวเอง แล้วมารวมตัวกันเพื่อภารกิจค้นหาตัวตนและความถูกต้อง อีกทั้งยังเปิดกว้างไปถึงกลุ่ม LGBTQI+ ที่จะชวนให้คุณจิ้นกันไปแบบคาดไม่ถึง

เรื่องราวของ “ตำนานกรีชา” เริ่มต้นที่การเดินทางของ “อาลินา สตาร์คอฟ” นักทำแผนที่ของกองพลที่ 1  เธออาศัยอยู่ในราฟกา ดินแดนที่สวยงามแต่ลึกลับ เต็มไปด้วยความฉ้อฉลและกษัตริย์ที่อ่อนแอ จนถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วนด้วย “แดนพยับเงา” อาณาเขตลึกลับที่ถูกปกคลุมไปด้วยเงามืดมิดสุดอันตรายที่เต็มไปด้วยอสุรกายกินคนหน้าตาเหมือนค้าวคาวยักษ์อย่าง “โวลครา”  เธอออกเดินทางพร้อม “มัล” เพื่อนวัยเยาว์ที่โตมาด้วยกันจากสถานเด็กกำพร้า ทั้งสองได้เดินทางเข้าสู่แดนพยับเงาเพื่อเดินทางไปยังราฟกาตะวันตก  ขณะที่เรือถูกโจมตีจาก “โวลครา” จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด อาลินาก็ได้ปลดปล่อย “พลังสุริยะ” หรือพลังแห่งแสงสว่าง พรสวรรค์ที่ซ่อนไว้โดยที่เธอไม่รู้ตัว เป็นพลังที่ไม่มีใครเหมือนจนสามารถสลายความมืดมิดในแดนพยับเงาและปราบโวลคราได้อยู่หมัด และทำให้พบว่าตัวเธอเองคือกุญแจสำคัญที่อาจพลิกชะตาของโลกนี้ได้  พลังเหนือธรรมชาติของอาลินานี้กลายเป็นที่โจษจันและเป็นที่ต้องการของทุกคน รวมถึงนายพลคิริแกน หรือเจ้าแห่งความมืดผู้มีชีวิตอยู่มานานเหลือเกิน ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่สร้างแดนพยับเงานี้ไว้ในอดีต และเขาพยายามหาทางแก้ปัญหาที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ด้วยหวังว่าเขาจะได้ครอบครองดินแดนราฟกาทั้งหมด 

อาลินาถูกนำตัวไปฝึกในกองพลที่ 2 ของผู้ที่มีพลังพิเศษที่เรียกว่า “กรีชา” ที่มีนายพลคิริแกนเป็นผู้นำภายในราชสำนัก โดยหวังจะใช้พลังพิเศษของเธอมาช่วยแก้ปัญหาแดนพยับเงา แต่เธอจำเป็นต้องค้นหา “เครื่องขยาย” หรือกวางวิเศษที่เธอฝันถึงบ่อย ๆ มาเป็นตัวช่วยให้เธอมีพลังสุริยะมากขึ้น  ความใกล้ชิดที่เธอมีต่อเจ้าแห่งความมืดสุดหล่อเพราะทั้งสองต้องร่วมมือกันทำให้อาลินาค่อย ๆ หลงรักเขามากขึ้น จนบางครั้งก็เผลอลืมมัลเพื่อนชายคนสนิทที่เธอเคยมีใจให้ไป

อาลินาต้องค่อย ๆ ปรับตัวกับความแปลกใหม่ในราชสำนักเพื่อฝึกฝนและเรียนรู้การใช้พลังของตัวเองร่วมกับเหล่ากรีชา ซึ่งคือมนุษย์ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว โดยจะมีผู้ออกมาตามหากรีชาเพื่อนำไปเป็นทหารของกองพลที่ 2  ในขณะเดียวกันกรีชาก็ถูกตามล่าเช่นกัน เพราะเชื่อว่ากรีชาคือพวกนอกรีตที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป กรีชาจึงไม่อยากเปิดเผยตัวตนมากนัก  

กรีชาแบ่งเป็น 3 ประเภทตามความสามารถ คือ กรีชาผู้เรียกความเป็นความตาย สามารถลงมือฆ่าหรือเยียวยาชีวิตได้ในระดับเซลล์โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส ควบคุมชีพจรได้ เช่น ช่วยปรับแต่งใบหน้า ลบริ้วรอยของอาลินาจากเด็กกะโปโลให้ออกมาสวยตาแตกจนนายพลคิริแกนต้องหลงใหล  กรีชาผู้เรียกพลัง สามารถควบคุมอุณหภูมิ สภาวะอากาศ เรียกลม เรียกฝน เสกไฟได้ดั่งใจ เอาไว้แล่นเรือโดยไม่ต้องง้อนํ้ามัน  กรีชานักประดิษฐ์ คือนักเล่นแร่แปรธาตุสสารทุกอย่าง ทั้งไม้ ดิน หิน ผ้า ประดิษฐ์ทุกอย่างได้แบบไม่ต้องร้องขอเครื่องมือใด ๆ เช่น เครื่องแบบกันกระสุนของกรีชา และแปลงสารเคมีเป็นระเบิดหรือยาพิษ 

ในขณะเดียวกัน แก๊งอีกาผู้โลดโผน 3 คน คือ “คาซ” เจ้าของคลับจอมหัวโจกขาพิการ แต่สมองปราดเปรื่องผู้ทำทุกอย่างเพื่อเงิน กับ “เจสเปอร์” นักแม่นปืนเจ้าสำราญแต่ติดการพนัน และ “อิเนจ” มือมีดบินหาตัวจับยากที่เพิ่งหลุดพ้นจากซ่องที่คาซซื้อตัวมา  ทั้งสามกลายเป็นทีมเดียวกันเพื่อรับภารกิจข้ามแดนพยับเงาไปชิงตัวอาลินาจากราชสำนักกลับมาเพื่อแลกกับเงินรางวัล

และอีกคู่ที่เป็นขวัญใจของใครหลายคนคือ “นีนา เซนิก” กรีชาผู้เรียกความเป็นความตาย ซึ่งถูกไล่ล่าโดย ‘มัตไทอัส’ ผู้เกลียดกรีชาเข้ากระดูกดำ  ไล่กันไปมาจนเรืออับปาง ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากที่เคยเป็นคู่กัดกลายเป็นคู่รัก ซึ่งในตอนท้ายต้องแอบหลั่งนํ้าตาให้กับความรักของเขาและเธอ 

แต่สำหรับใครที่เป็นทีมของ “แก๊งอีกา” ก็สามารถอ่านตำนานกรีชาชุด “อีกาผยอง” คือเล่ม “อีกาผยอง” และ “อาณาจักรฉ้อฉล” ก่อนได้โดยไม่ผิดกติกา  ขอบอกเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับคาซ เบรกเกอร์ กุนซือจอมเจ้าเล่ห์ที่ฉลาดมาก (จนทำให้แม้แต่ผู้เขียนยังปวดหัว) ที่ได้รวบรวมสมาชิกกลุ่มอันพิลึกพิลั่นของเขาเพื่อเผชิญกับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ นั่นคือวางแผนปล้นและชิงตัว โบ ยูล-ไบยัวร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้กุมความลับของยาเสพติดที่สามารถเพิ่มพละกำลังเหนือธรรมชาติให้กับเหล่ากรีชาได้อย่างไร้ขีดจำกัดจากราชสำนักนํ้าแข็ง ดินแดนซึ่งได้ชื่อว่ามีป้อมปราการซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีชนิดที่ใครก็ทะลุทะลวงเข้าไปไม่ได้

เนื้อหาในชุดนี้บอกเล่าจากมุมมองของตัวละครหลายตัวที่มีโครงเรื่องซับซ้อนมากขึ้น  คุณจะได้สัมผัสกับสมาชิกแก๊งอีกาแบบฝนตกขี้มูกไหล พาคนทั้งหกมาเจอกัน ทั้ง “คาซ” ผู้ได้ฉายาว่า “มือโสมม” ที่มีภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง  “เจสเปอร์” นักแม่นปืนที่ไม่เคยพลาดเป้า แต่ติดการพนันงอมแงม  “อิเนจ” สาวนักปามีดบินที่เคลื่อนไหวได้แบบไร้ร่องรอย  “ไวแลน” มือระเบิดที่พ่อไม่รัก แถมยังเป็นโรคอ่านหนังสือไม่ออก (Dyslexia)  “นีนา” กรีชาที่มักโดนบูลลี่มาตลอดว่าตัวใหญ่เกินไป เสียงดังเกินไป มากล้นเกินไป  และ “มัตไทอัส” นักตามล่ากรีชาผู้ยึดมั่นในหลักการจนน่าหัวเราะ 

ทั้ง 6 คนคืออาชญากรระดับพระกาฬที่ล้วนใช้ฝีมือและสมองบวกกับเวทมนตร์นิดหน่อยในการวางแผนปล้นที่เต็มไปด้วยอุบายและกลลวงมากมายราวกับตุ๊กตาแม่ลูกดกที่ต้องวางแผนเป็นชั้น ๆ ทั้งการต่อสู้ แหกคุก ชิงไหวชิงพริบ ขับเคี่ยว แก้แค้น ไถ่บาป คู่อริเก่า พันธมิตรใหม่ ฯลฯ  คาซค่อย ๆ สร้างสมดุลและจัดการทีมของเขาที่นอกจากจะต้องต่อสู้กันเองแล้ว ยังต้องสู้กลับกับอดีตของตัวเองอีกด้วย แต่ต่างก็ไม่ลืมที่จะเรียนรู้และทำงานร่วมกันให้สำเร็จ

ไม่แน่คุณอาจจะพบใครสักคนในแก๊งอีกาที่แสนเละเทะยุ่งเหยิงแก๊งนี้ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงและผูกพันกับคุณได้ จนทำให้คุณพอที่จะมองเห็นตนเองว่าถึงแม้จะทำผิดพลาด แต่ก็ยังคงสู้ต่อไป... 

พลังพิเศษของอาลินาที่นำมาซึ่งชีวิตใหม่ อำนาจ โชคชะตา ความรักระหว่างเธอกับเจ้าแห่งความมืดและมัล กับภารกิจของแก๊งอีกาขวัญใจมหาชนที่ต่างก็มีบาดแผลในใจและจุดประสงค์ลับของแต่ละคน จะจบลงอย่างไรก็ต้องลองติดตามจากหนังสือชุด “แดนมรณะแห่งพยับเงา” และชุด “อีกาผยอง” ทั้ง 5 เล่มนี้ ที่ควรอ่านให้จบก่อนซีซั่น 2 จะมา แล้วมาลุ้นกันต่อว่าในซีซั่น 2 นี้จะมีความแตกต่างอะไรเพิ่มเติมจากในหนังสือที่น่าจับตามองอีกบ้าง... 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก 

Netflix 

spikytv.com

...................................................................
ทดลองอ่านและสั่งซื้อ
ชุด "แดนมรณะแห่งพยับเงา (Shadow and Bone)"  >>คลิก<<
ชุด “อีกาผยอง (Six of Crows)"   >>คลิก<<