คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต
“เพราะบางครั้ง สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่ยา แต่เป็นใครสักคนที่พร้อมจะรับฟัง”
เมื่อค่ำคืนมาถึง “คลินิกหิ่งห้อย” ก็เปิดไฟสว่างไสว รอต้อนรับคนไข้ที่ไม่ได้เจ็บแค่ร่างกาย แต่อ่อนล้าจากใจและสังคมรอบตัว...
หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอด 19 เรื่องจริงจากผู้ป่วยที่เข้ามาหาหมอในยามดึก
ตั้งแต่เจ้าของร้านที่นอนไม่หลับโดยไม่รู้สาเหตุ พนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่อาหารไม่ย่อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไปจนถึงคุณแม่ที่สูญเสียความทรงจำทุกครั้งเมื่อมาเยี่ยมบ้านลูกชาย
พวกเขาจึงมาเคาะประตูห้องตรวจในยามดึกเพื่อระบายความเจ็บปวดในชีวิตประจำวัน
แต่แทนที่พวกเขาจะได้รับใบสั่งยา พวกเขากลับได้รับ “ความเข้าใจ” จากหมอที่พร้อมฟัง และมองอาการป่วยผ่านปัญหาเชิงโครงสร้างในสังคม เช่น ปัญหาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมบริษัทแฟรนไชส์ที่แก้ไม่ได้ในชีวิตของเจ้าของร้านสะดวกซื้อ หรือการทำงานหนักจนเกินพอดีในสังคมที่คนทำงานต้องเผชิญ
และเสนอแนวทางรักษาที่เหมาะสม ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความเข้าใจ คนไข้หลายคนเดินออกจากห้องตรวจด้วยความรู้สึกเบาสบาย แม้ยังไม่ได้รับใบสั่งยา
ทุกบทในหนังสือเล่มนี้จึงเต็มไปด้วยความจริง ความอ่อนโยน และคำแนะนำทางการแพทย์ที่เข้าใจง่าย พร้อมสรุปสุขภาพในตอนท้าย สนับสนุนด้วยข้อมูลวิจัยจริง เคสการรักษาทั้ง 19 เคสในเล่มนี้อาจคล้ายคลีงกับคุณหรือผู้คนรอบข้าง
จุดเด่น
1. ผู้เขียนเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เขียนโดยอิงจากเคสที่เกิดขึ้นจริง ข้อมูลทางการแพทย์เชื่อถือได้ พร้อมคำอธิบายที่ชัดเจนและง่ายต่อการนำไปใช้
2. เล่าเรื่องความรู้สุขภาพจากมุมมองของผู้ป่วยที่ไปพบแพทย์ ทำให้มีความรู้สึกร่วม สงสัย อยากรู้อาการป่วยและวิธีการดูแลรักษาร่วมไปกับตัวละคร
3. ในตอนท้ายของแต่ละบท ผู้เขียนได้สรุปข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง พร้อมอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยและสถิติ เพื่อช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาพ
รู้จักผู้เขียน
โอซึงว็อน
เป็นศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัวจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุุงโซล (Seoul National University Hospital) เป็นผู้เชี่่ยวชาญด้านการดููแลสุุขภาพแบบองค์รวม เน้นความเชื่่อมโยงระหว่างร่างกายและจิตใจ มีประสบการณ์ยาวนานในฐานะแพทย์ประจำคลินิกและผู้บรรยายเกี่่ยวกับสุุขภาพ หนังสือ คลินิกหิ่งห้อย พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาชีวิต เกิดจากประสบการณ์ในคลินิกที่เขาได้พบกับผู้ป่วยที่มีเรื่องราวหลากหลาย ทั้งจาก ร่างกายและจิตใจ เขามองว่าแพทย์ควรเป็นผู้ฟังที่ดีและช่วยหาวิธีรักษาที่ต้นตอ ของปัญหามากกว่าการจัดการเพียงอาการที่ปรากฏ ปัจจุบันโอซึงว็อนยังคงมุ่งมั่นในการทำงานในสายการแพทย์ และการเขียน ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและการตระหนักรู้ด้านสุขภาพในสังคม




